เปลี่ยนแบตไอโฟน หลังหมดประกันถ้าไม่ไปศูนย์ ต้องดู 5 ข้อนี้?

1. มองหาแบตที่มีมาตรฐาน มอก.ก่อนอันดับแรก เพราะจะผ่านมาตรฐาน มอก. มานั้นตัวแบตจะต้องผ่านการตรวจสอบตามขั้นตอนมาตรฐาน ซึ่งมาตรฐานนี้จะเน้นไปในเรื่องความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ เช่นใช้แล้วไม่ระเบิดแน่นอน มีวงจรตัดไฟเมื่อเกิดไฟลัดวงจร เซลล์ของแบตที่นำมาผลิตได้คุณภาพ อะไรประมาณนี้ ถ้าแบตยี่ห้อไหนมี มาตรฐานมอก. เราก็สบายใจได้เรี่องความปลอดภัยต่อการใช้งานแล้วระดับหนึ่ง
2. นอกจากตรา มอก.ที่ติดข้างกล่องแล้ว ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัทผู้ผลิตหรือนำเข้าเพิ่มเติมด้วยว่ามีความน่าเชื่อถือไหม? ดำเนินธุรกิจมานานไหม? เพราะในปัจจุบันการพิมพ์แพคเกจจิ้งนั้นทำได้ง่าย มอก.ที่ได้มาอาจจะไม่ได้มาจากการตรวจสอบเพื่อขอมาตรฐานมาจริงๆ
3. เลือกแบตที่มีความจุของมิลลิแอมป์ เท่าเดิม ถึงแม้ว่า ณ. ปัจจุบันจะมีแบตเพิ่มความจุจำหน่ายมากมาย ถามว่าเปลี่ยนได้ไหม? ตอบว่าเปลี่ยนได้ไม่มีปัญหาอะไรกลับการใช้งาน แต่ในอนาคตถ้ามีการอัพเดตเกี่ยวกับค่าแบต มีโอกาสที่เครื่องจะอ่านค่ามิลลิแอมป์แล้วผิดเพี้ยนทำให้เครื่องรวนหรือค้างได้
4. เลือกร้านที่มีมาตรฐาน ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือเวลาเข้าใช้บริการ ร้านที่มีความชำนาญจะใช้เวลาไม่นานและใช้เครื่องมือที่มีมาตรฐานในการแกะประกอบเครื่อง การันตีได้เรื่องความปลอดภัยต่อเครื่องและข้อมูลของเราด้วย
5. ดูเรื่องประกันของตัวแบตปกติการเปลี่ยนแบตไอโฟนจะรับประกัน 1 ปี  ซึ่งเงื่อนไขการรับประกันนั้นให้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียดว่ากรณีไหนบ้างที่ไม่รับเคลม เราจะได้ระวังการใช้งานได้ถูกต้อง

          และนี่คือหลักเกณฑ์ในการพิจารณาถ้าเราจะต้องเปลี่ยนแบตไอโฟน หรือแบรนด์อื่นๆ หลังจากที่ประกันหมดแล้ว เพื่อให้ได้คุณภาพทั้งแบตและงานซ่อม จะได้ใช้งานเครื่องของเรากันต่อได้ยาวๆ คุ้มค่าคุ้มราคาที่จ่ายไป

          ถ้ากรณีที่เครื่องของเรายังมีประกันหรือซื้อประกันกับทาง Apple ไว้ ก็แนะนำว่าให้เข้ารับบริการเปลี่ยนแบตที่ศูนย์ได้เลยเพราะค่าใช้จ่ายอาจจะมีแค่ค่าดำเนินการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นถึงว่าคุ้มค่าครับ