จอก๊อบปี้ iPhone มีกี่ชนิด? แตกต่างกันยังไง? จะได้เลือกใช้ถูก!!

จอของ iPhone มีความแตกต่างกันในหลายด้านตามเทคโนโลยีที่ใช้หลักจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ LCD และOLED ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของภาพ การประหยัดพลังงาน และการทนทาน

เลือกอ่าน

ความแตกต่างหลัก ๆ ระหว่างจอ LCD และ OLED

1.จอ LCD (Liquid Crystal Display)

การแสดงสี: สีสันไม่สดใสเท่าจอ OLED สีดำไม่ดำสนิทเนื่องจากมีแบ็คไลท์
การใช้พลังงาน: ใช้พลังงานมากกว่าจอ OLED เนื่องจากมีแบ็คไลท์ที่ต้องเปิดตลอดเวลา
ความทนทาน: ทนทานมากกว่า โดยเฉพาะต่อการเกิดภาพเผา (burn-in)
ราคา: ราคาถูกกว่า ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่า
ความละเอียด: แม้ว่าจะมีความละเอียดสูง แต่สีสันและคอนทราสต์จะไม่เด่นชัดเท่าจอ OLED

2.จอ OLED (Organic Light Emitting Diode)

การแสดงสี: สีสันสดใสและเข้มข้นมากกว่า สีดำดำสนิทเนื่องจากไม่มีแบ็คไลท์
การใช้พลังงาน: ประหยัดพลังงานมากกว่า เนื่องจากแต่ละพิกเซลสามารถเปิด-ปิดเองได้
ความบาง: บางและยืดหยุ่นได้มากกว่าจอ LCD
คอนทราสต์: มีคอนทราสต์ที่สูงกว่าจอ LCD เพราะสีดำที่ดำสนิท
ความทนทาน: มีโอกาสเกิดภาพเผา (burn-in) ได้หากใช้เป็นเวลานาน
ราคา: ราคาสูงกว่าเนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อนกว่า

ชนิดย่อยของจอ ใน iPhone มี 2 ประเภท ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก จอ LCD และ OLED

-Super Retina XDR: เป็นจอ OLED ที่ปรับปรุงคุณภาพแสงและสีให้ดียิ่งขึ้น ใช้ในรุ่น Pro และ Pro Max เช่น iPhone 11 Pro, 12 Pro, 13 Pro, 14 Pro

-Liquid Retina: เป็นจอ LCD ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับจอ OLED แต่ยังคงความทนทานและต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ใช้ในรุ่นที่ไม่ใช่ Pro เช่น iPhone XR, 11, 12, 13, 14 และ iPhone SE

ดังนั้นจอของ iPhone จะมีหลายชนิดตามความคืบหน้าของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละรุ่น

สรุปแล้ว ความแตกต่างหลักระหว่างจอ LCD และ OLED อยู่ที่คุณภาพของภาพ การใช้พลังงาน และความทนทาน โดยจอ OLED จะมีคุณภาพของภาพที่ดีกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่า แต่ราคาสูงกว่าและทนทานน้อยกว่าในแง่ของการเกิดภาพซ้อนหรืออาการ Burn ที่หน้าจอ

จอก๊อบปี้ (หรือจออะไหล่ที่ไม่ใช่ของแท้) สำหรับ iPhone มีหลายชนิด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้:

1. จอก๊อบปี้ เกรด TFT (Thin Film Transistor)

ชนิดจอ: เป็นแบบ LCD มีชุดแบ็คไลท์เพื่อให้แสง
คุณภาพ: คุณภาพต่ำกว่าจอ OLED สีสันไม่สดใส การตอบสนองต่อการสัมผัสอาจมีความล่าช้าบ้าง
ราคา: ถูก เพราะเป็นเทคโนโลยีจอที่เก่าแล้ว
การใช้งาน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ ไม่เน้นเล่นเกมดูหนัง ไม่ต้องการใช้ Speed มือเร็วๆ เน้นใช้งานทั่วไป ตอบแชท เล่น Line Facebook ก็สามารถใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหา

2. จอก๊อบปี้ ชนิด OLED (Organic Light Emitting Diode)

จอเกรดนี้ถูกแบ่งย่อยทำออกมาหลากหลายเกรด ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเรืองแสงที่อยู่ในจอ และยังถูกแบ่งประเภทออกเป็น Hard OLED และ Soft OLED (จอโค้งทั้งหลาย) อีกด้วย
คุณภาพ: เป็นจอที่มีการรวมชั้นต่างๆ ของจอภาพให้เป็นชั้นเดียว ทำให้บางลงและคุณภาพดีขึ้น การตอบสนองต่อการสัมผัสดีมาก ถ้าเกรด AAA ก็จะให้สีสันที่สดสวยใกล้เคียงกับจอแท้
ราคา: แพงกว่าเกรด TFT
การใช้งาน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพที่ดีในราคาที่สมเหตุสมผล สามารถใช้ทดแทนจอแท้ได้ไม่แพ้กันเท่าไหร่ คุณภาพสีสันอาจจะดร๊อปกว่าจอแท้ ประมาณ 5-15% ขึ้นอยู่กับเกรด (AAA/AA/A) เรื่องทัชสกรีนจอแท้อาจทำได้ดีกว่านิดหน่อย เพราะการตีตารางเส้นทัช จอแท้ทำได้ถี่และละเอียด การลากด้วย Speed มือที่ไวมากๆ จอแท้จะไม่หลุด จอเทียบอาจมีหลุดบ้างบางจังหวะ