สอบถามและประเมินอาการฟรี
iPhone warning

ไอโฟนเครื่องร้อน สาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง?

ไอโฟนเป็นมือถือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังก์ชั่นระบบIOS ตัวกล้องที่สวย และความเสถียรในการใช้งาน แต่ปัญหาที่จะเลี่ยงไม่ได้เลย ก็คงเป็นอุณหภูมิความร้อนในตัวเครื่องที่บางครั้งก็ร้อนจนเกินไป จนทำให้ผู้ใช้ส่วนมากเกิดความวิตกกังวลว่า จะเกิดความเสียหายอะไรมั้ย YUKIFIX จะมาอธิบายสาเหตุและวิธีที่จะช่วยแก้ไขปัญหาจุดนี้ครับ

สาเหตุมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไอโฟนร้อน มีทั้งสาเหตุที่ปกติและไม่ปกติ มีอะไรบ้าง?

1.เกิดจากการที่เครื่องรันระบบ :

ในระบบ iOS จะมีการตั้งเวลาในระบบให้รันเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์หรือรักษาการทำงานบางฟังก์ชันเอาไว้ ขณะที่ CPU ทำงานเครื่องก็จะร้อนขึ้นมา เป็นปกติสักระยะอุณหภูมิก็จะหายไป การร้อนของไอโฟนลักษณะนี้ถือว่าปกติ

2.เกิดจากการใช้แอปบ้างตัว:

ในแอปบางตัวมีเมื่อรันแล้ว CPU จะทำงานหนัก เช่น แอปการตัดต่อ แอปกล้องที่เปิดค้างไว้นานๆ เกมที่กราฟิกสวยๆ แอปพวกนี้มักจะทำให้เครื่องร้อนจัดเมื่อใช้เป็นเวลานาน

3.มีการช็อตหรือไฟรั่วจาก IC:

การร้อนในลักษณะแบบนี้ถือว่าไม่ปกติ อาการร้อนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและร้อนมากจับไม่ได้ ถ้าเป็นอาการไฟรั่วไฟจาก IC จะร้อนเป็นบริเวณที่รั่วและมีอาการแบตไหลรวมด้วย

4.เครื่องไม่ได้ร้อนจริงๆแต่โชว์แจ้งเตือน:

มีการแจ้งเตือนขึ้นที่หน้าจอ ไม่สามารถใช้งานเครื่องได้ แต่เครื่องไม่ได้ร้อน อาการนี้เซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิเสียครับ

และนี่คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เครื่องไอโฟนของคุณร้อน บางสาเหตุคุณสามารถแก้ไขได้เองตามวิธีที่แนะนำด้านล่างแต่บางอาการก็ไม่สามารถแก้ไขได้เองอย่างเช่น เครื่องซ็อตหรือเซนเซอร์เสีย ก็ต้องให้ช่างที่มีประสบการณ์ตรวจสอบและดำเนินการซ่อมต่อไป  

รวม 7 วิธีแก้ไขเบื้องต้น!!

1. Case ที่ใช้ไม่สามารถระบายความร้อนได้อย่างเต็มที่

ในปัจจุบันเคสไอโฟนมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเคสกันกระแทก เคสสำหรับการชาร์จไร้สาย หรือเคสเพื่อความสวยงาม ซึ่งวัสดุและความหนาของเคสอาจมีส่วนทำให้โทรศัพท์นั้นมีอุณหภูมิที่สะสม จนทำให้เครื่องเกิดความร้อน ทั้งนี้ เมื่อจำเป็นต้องใช้งาน การถอดเคสจะช่วยทำให้เครื่องระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น

2.พักการใช้งานเครื่อง

ถ้าคุณรู้สึกว่าเครื่องร้อนขึ้นจนผิดปกติ ให้ทำการพักเล่นก่อน รอให้เครื่องเย็นลงแล้วค่อยกลับมาใช้งานต่อ

3.ปิดฟีเจอร์”ดึงข้อมูลแอปเบื้องหลัง”

ฟีเจอร์ในส่วนนี้เราสามารถปิดและเปิดเฉพาะบางแอปที่เราต้องการใช้งานจริงๆได้ หากไม่จำเป็นแนะนำให้ปิด เพื่อลดการทำงานโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องเกิดการทำงานหนักและมีความร้อน

(แนะนำให้ปิดแอปที่ไม่จำเป็นออก ตั้งค่าเฉพาะWi-Fi)

4.เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน

หากมีความจำเป็นที่ยังต้องใช้มือถือในการทำงาน หรือ ติดต่อสื่อสารอยู่ สามารถเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานก่อนได้ เพราะฟีเจอร์นี้จะช่วยลดกิจกรรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง และตัดการทำงานบางส่วนออกไป ทำให้เครื่องไม่ทำงานงานหนักและลดความร้อนได้

5.แบตเสื่อมสภาพ (สุขภาพแบตต่ำกว่า80%)

โดยปกติแล้ว แบตเตอรี่ไอโฟน มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ2-3ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งหากแบตเสื่อมสภาพแล้ว การส่งกระแสไฟไปที่เมนบอร์ดอาจไม่ปกติส่งผลให้เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ มีอาการบอร์ดร้อนหรือเครื่อง Restart เองได้ 

ไอโฟนสามารถตรวจสอบได้ว่า สุขภาพแบตเราตอนนี้อยู่ที่เท่าไร โดยสามารถเข้าไปที่ การตั้งค่า( Setiing ) > แบตเตอรี่ ( Battery ) > สุขภาพแบตเตอรี่การชาร์จ ( Battery Health & Charging ) และให้ดูความจุสูงสุด ( Maximum Capacity ) ถ้าเหลือต่ำกว่า 80% อาจต้องพิจารณาแล้วควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ เนื่องจากแบตเสื่อมสภาพแล้ว

6. iOS ที่ทำงานผิดปกติ

บางครั้งการอัปเดตiOS เวอร์ชันใหม่ ไม่ได้หมายความว่าดีเสมอไป    เนื่องจากไฟล์ที่ปล่อยมาให้อัปเดตบางเวอร์ชันก็จะมีการทำงานที่ผิดปกติ มีบัคที่ติดมากับเวอร์ชันนั้นด้วย การล้างเครื่องหรือคืนค่าโรงงาน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้ iOS ใหม่ที่ทางAPPLE ปล่อยออกมานั้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ก่อนทำเราอย่าลืมทำการสำรองข้อมูลเบื้องต้น เพื่อที่ข้อมูลทั้งหมดของเราจะได้ไม่หาย

7.สายชาร์จ-อุปกรณ์ร่วม ที่ไม่ได้มาตรฐาน

อุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับไอโฟน ก็มีผลทำให้เครื่องร้อนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ หรืออะแดปเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน พวกนี้จะใช้ของที่คุณภาพไม่ผ่านเกณฑ์ เป็นส่วนทำให้ตัวเครื่องไอโฟนของเราเสียหายได้ หรือมีอาการร้อนเวลาชาร์จ

YukiFix Best Quality Fast Service

สอบถามเพิ่มเติมได้เลย!!

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง