เช็คด่วน!! อาการที่บอกว่า “ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว”
บางครั้งก็สับสนว่า ไอโฟนใช้งานมาเกิน 1 ปีแล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องเปลี่ยนแบตหรือยัง? แต่เครื่องก็ยังใช้งานได้ปกติดี เอายังไงกันดี? ไม่เปลี่ยนเครื่องจะมีปัญหาไหม? บทความนี้มีข้อมูลที่จะช่วยให้การตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ไอโฟนของคุณดีขึ้น มีอะไรบ้างไปอ่านเพิ่มได้เลย
เลือกอ่าน
วิธีเช็คว่าแบตเสื่อมหรือยัง? มีดังนี้
ชาร์จวันหนึ่งเกิน 3 รอบ
จากการใช้งานปกติ ไม่นับรวมการ Live สด ดู Youtube ต่อเนื่องหลายชั่วโมง ถ้าเราใช้งานปกติ แล้วเปอร์เซ็นต์แบตไหลแบบ ก้าวกระโดดมากเกินไป อาการนี้บ่งบอกว่า สุขภาพแบตเตอรี่ของคุณอาจจะต่ำกว่า 70% หมายถึง แบตก้อนนี้เก็บไฟได้แค่ 70% จากความจุทั้งหมด ซึ่งระดับสุขภาพที่ต่ำขนาดนี้ เริ่มสร้างความลำบากให้กับคุณอย่างแน่นอนเพราะคุณจะต้องหาที่ชาร์จอยู่ตลอดเวลา แนะนำให้เปลี่ยนแบตได้เลยครับ
แบตเตอรี่ไอโฟนของคุณบวมดันหน้าจอออกมาจนสังเกตเห็นได้ชัดเจน
หน้าจอแพงกว่าแบตนะครับ ถ้ามันบวมดันจออยู่มีโอกาสที่จอจะเสียเพิ่ม เพราะระนาบหน้าจอไม่ได้อยู่ในแนวที่เหมาะสมกับการใช้งาน กดไปกดมาจอแตกทัชสกรีนขาดช่วงหรือจอขึ้นเส้นได้ ถึงแม้ว่าแบตเตอรี่อาจจะยังใช้งานได้อยู่ อันนี้ก็ไม่ควรปล่อยให้นานไป เพราะแบตที่บวมจะบวมใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ กรณีนี้รีบเปลี่ยนแบตได้เลย
แบตไม่ได้หมด แต่เครื่องชอบดับแล้ว Restart เอง
เช่น เล่นๆ อยู่ ที่ 10-15% เครื่อง Restart เอง หรือดับไปเลยต้องเสียบชาร์จเครื่องถึงจะติด แบบนี้แสดงกว่าแบตของเรา กำลังไฟตก เซลล์แบตเสื่อมสภาพหนัก เพราะปกติแรงดันไฟฟ้าในแบตจะมีประมาณ 3.8 โวลต์ และจะอยู่ที่ 3.8 โวลต์ ตลอดถึงแม้ว่าไฟในแบตจะเหลือน้อย ถ้าเมื่อใกล้ไฟจะหมดแล้วแรงดันไฟตกด้วย แสดงว่าแบตก้อนนี้เซลล์แบตเสื่อมสภาพแล้ว ถ้าใช้งานต่อไป เครื่องมีโอกาสพังเพิ่ม มันเหมือนกับไม่ได้ Shut Down เครื่องดับไปเฉยๆ อุปกรณ์ภายในเครื่องเช่น CPU หรือ Nan (หน่วยความจำ) ของเครื่องคุณจะเสียเพิ่มได้ และถ้าอุปกรณ์พวกนี้เสียโอกาสที่จะได้ข้อมูลกลับมาแทบจะเป็นศูนย์นะครับ อาการนี้มารีบเปลี่ยนแบตได้เลย
นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่าแบตไอโฟนของคุณเสื่อมจริงๆ และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว ผมไม่ได้นับหรืออ้างอิงที่สุขภาพแบตที่คนส่วนใหญ่ดูๆ กันนะครับ เอาจะอาการที่มีผลต่อการใช้งานตรง ถ้าใครมี 1 ใน 3 อาการข้างต้นแนะนำให้เปลี่ยนแบตได้เลยเพราะผลเสียจากการใช้แบตที่เสื่อมนั้นอาจจะรุนแรงกว่าที่คิด
