

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดรวมไปถึงไอโฟน เป็นอะไรที่ไม่ถูกกับของเหลวหรือน้ำอยู่แล้ว เพราะเนื่องด้วยชิ้นส่วนมีขนาดเล็กมากแทบจะติดกันเลยทีเดียว น้ำหรือของเหลวเพียงหยดเล็กๆ หนึ่งหยด ก็สามารถทำให้พังได้แล้ว เพราะน้ำเสมือนสะพานไฟ ทำให้เกิดการลัดวงจร อุปกรณ์ก็จะช็อตไหม้ ทำให้ไอโฟนของเราพังนั้น
เลือกอ่าน
อาการเสียอาจจะเป็นไปได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำหรือของเหลวไหลเข้าไปที่ชิ้นส่วนไหน เช่น แถวก้นชาร์จ ระบบชาร์จก็อาจจะเสีย ไหลเข้าไปบริเวณกล้องหน้า เฟสไอดีหรือกล้องอาจจะเสียได้ อาการอื่นก็อาจจะมี บูทวน ติดโลโก้แอปเปิล เครื่องร้อน รีสตาร์ทเอง แบตไหลหมดเร็ว เป็นต้น
ก่อนจะไปถึงวิธีซ่อม อยากจะแนะนำวิธีปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อไอโฟนของเราตกน้ำ เพื่อลดอัตราความเสียหายจากหนักให้เป็นเบาได้
เพราะเป็นการตัดไฟเลี้ยงจากแบต หยุดขยายความเสียหาย ยิ่งเปิดเครื่องไว้น้ำอาจจะพาให้วงจรภายในเสียหายเพิ่ม
ทำให้น้ำหรือของเหลวออกจากระบบให้ได้มากที่สุด เพราะอุปกรณ์บางตัวบอบบางกับความชื้นมากๆ เช่น เซนเซอร์ Face ID
การเป่าแห้งจากภายนอกไม่ช่วยให้น้ำที่อยู่ด้านในแห้งหรือระเหย ถ้าเป่านานไปหรือร้อนไปหน้าจอของคุณจะเสียเพิ่มได้
ความเชื่อที่ว่าข้าวสามารถดูดความชื้นได้ อันนี้จริงครับ แต่ว่าสิ่งที่จะเข้าไปในระบบเพิ่มก็คือฝุ่นแป้ง และเมื่อฝุ่นแป้งแห้งมันจะเป็นตะกรันสีขาวกัด ปริ้นลายไฟขาด ตะกั่วก็ด้านขา ic หลุดหรือขาดหมด สรุปคือพังเพิ่มอยู่ดี และข้าวดูดความชื้นได้นิดหน่อยเท่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรได้มากเท่าไหร่
ถ้าไม่สามารถนำเครื่องเข้าร้านหรือศูนย์ซ่อมเพื่อแกะล้างทำความสะอาดได้ทันที ถึงแม้ว่าจะวางเครื่องไว้ข้ามคืนแล้ว มา 2-3คืน น้ำอาจจะแห้งไปแล้ว แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจ เพราะถ้าเสียบชาร์จหรือเปิดเครื่องไฟวิ่งเข้าไปอาจจะช็อตเพิ่มได้
เพราะร้านหรือศูนย์จะได้ทราบว่าต่อดำเนินการแกะเช็คและล้างเครื่องก่อนที่จะดำเนินการในกระบวนการอื่นๆ
และนี่คือ 6 ข้อที่ควรปฏิบัติเมื่อไอโฟนของเราตกน้ำ ถ้าเครื่องไม่ช็อตไปซะก่อน แค่แกะล้างทำความสะอาดเล็กน้อยไอโฟนของเราก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ปกติแล้วครับ
ในการซ่อมเครื่องตกน้ำนั้น ราคามีหลากหลายมาก เพราะอาการเสียเป็นได้หลายระดับและมีหลายความรุนแรง ซึ่งราคาในตารางด้านล่างเป็นเพียงราคาเริ่มต้นเท่านั้นนะครับในส่วนของระดับการซ่อมมี 3 ระดับนะครับ
Model | ค่าบริการล้างเครื่องเริ่มต้น | ค่าเปลี่ยนอุปกรณ์เริ่มต้น | ค่าซ่อมเมนบอร์ดเริ่มต้น |
---|---|---|---|
iPhone7/7P | 800฿ | 1,000฿ | 1,500฿ |
iPhone8/8P | 800฿ | 1,000฿ | 1,500฿ |
iPhoneX/Xs | 800฿ | 1,800฿ | 2,500฿ |
iPhone11/Xr | 800฿ | 1,800฿ | 2,500฿ |
iPhone11Pro/11Promax | 1,000฿ | 2,500฿ | 3,500฿ |
iPhone12mini | 1,000฿ | 1,800฿ | 3,000฿ |
iPhone12/12Pro | 1,000฿ | 3,000฿ | 3,500฿ |
iPhone12Promax | 1,500฿ | 3,500฿ | 3,500฿ |
iPhone13mini | 1,200฿ | 2,000฿ | 2,500฿ |
iPhone13/13Pro | 1,500฿ | 3,500฿ | 3,500฿ |
iPhone13Promax | 1,800฿ | 3,500฿ | 4,000฿ |
iPhone14 | 1,500฿ | 2,500฿ | 2,500฿ |
iPhone14Plus | 1,500฿ | 2,800฿ | 3,500฿ |
iPhone14Pro | 1,800฿ | 3,500฿ | 3,500฿ |
iPhone14Promax | 2,000฿ | 3,500฿ | 4,500฿ |
*ราคานี้เป็นราคาเริ่มต้นเท่านั้น!! ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงหน้างาน
*ราคาซ่อมจริงประเมินตรวจสอบหน้าร้านเท่านั้น!!!
สำหรับท่านใดที่มีคำถามสงสัยหรืออยากสอบถามอาการเสียอื่นๆ เพิ่มเติม ทักมาได้เลยครับ ทาง YukiFix เรามีทีมงานมากประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาอยู่ ฟรี!!